พาลูกไปหาหมอ แผนกกุมารเวช ที่ศิริราช เป็นครั้งแรก เร็วอย่างเหลือเชื่อ

16272
แบ่งปัน

ที่ผ่านมา แอดมินเอง ไม่เคย พาลูกไปหาหมอ ที่โรงพยาบาลรัฐบาลมาก่อนเลย ด้วยความเชื่อที่ว่า รพ.รัฐบาล คนเยอะ เชื้อโรคเยอะ ช้า ร้อน และเสียเวลามากเกินไป จึงได้เลือกใช้ บริการของ รพ.เอกชน มาโดยตลอด ซึ่งส่วนใหญ่ ก็จะเป็นการ ฉีดวัคซีนเด็ก ตามระยะ ซึ่งสะดวกสบาย รวดเร็ว และคนไม่ค่อยเยอะมาก ( ในวันธรรมดา ) สถานที่สะดวกสบาย แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่าย ที่แพงพอสมควร แต่ได้ความสบายใจ จนมาถึงวันนี้ น้องเนปจูน อายุ 2 ขวบครึ่งแล้ว พอดีเมื่อวาน มีผื่นขึ้นมาตามตัว เป็นเฉพาะบางจุด แต่ไม่มีไข้ ไม่มีอาการอะไร ก็เลยว่าจะพาไปหาหมออยู่ เพราะอยากรู้ว่า น้องเนปจูน เป็นอะไรกันแน่ จะเป็นไข้เลือดออกหรือเปล่านะ แต่คุณพ่อเค้าบอกว่า ไหนๆ ลูกก็โตแล้ว ทำไมไม่ลองพาไปตรวจที่ รพ.รัฐบาล ดูบ้างล่ะ ในเมื่อก็มีสิทธิ์เบิกได้เต็มจำนวน ก็เลยจัดไปค่ะ วันนี้ ก็เลยพาน้องเนปจูน ไปตรวจดูอาการ ผิดปกติเหล่านี้ ที่ รพ.ศิริราช ดู เพราะน้องเค้ามีบัตรที่ รพ.ศิริราช อยู่แล้ว คุณพ่อ เค้าทำเอาไว้ ตั้งแต่ลูกเกิด ( คิดเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ว่าถ้าเนปจูนโตขึ้น จะให้มาหาหมอที่นี่ ) ซึ่งการเดินทาง ก็ไม่ได้ลำบากอะไรค่ะ รถติดพอสมควร แต่ที่แย่จริงๆ ก็คือ เรื่องของที่จอดรถนี่แหละค่ะ แม้ว่าจะมีพื้นที่มากมาย ตั้งแต่ อาคารจอดรถ ไปจนถึง ที่จอดตามวัดใกล้เคียง และพื้นที่ของการรถไฟก็ตาม แต่ก็ยังแน่น จนไม่สามารถหาที่จอดรถได้เลยค่ะ ต้องวนประมาณ 50 นาที กว่าจะได้ที่จอดรถ ซึ่งก็คือ ริมทางรถไฟ เนื่องจาก รถส่งของในตลาด เริ่มออกจากพื้นที่ไปแล้ว ถึงได้มีที่จอดรถ แต่กว่าจะได้ที่จอด คุณพ่อน้องเนปจูน ก็ต้องขับรถวนจนขาแข็งเลยค่ะ

คุณแม่ต้องรู้  วิธีการเลือก สถานรับเลี้ยงเด็ก หรือเนอสเซอรี่ ต้องพิจารณาจากเรื่องอะไรบ้าง

พาลูกไปหาหมอ แผนกกุมารเวช ที่ศิริราช

รีวิว ครั้งแรกที่ พาลูกไปหาหมอ ที่ศิริราช เร็วพอๆ กับ รพ.เอกชน เลยทีเดียว

แอดมินออกจากบ้าน ตอน 7 โมง ค่ะ กว่าจะถึง รพ. ก็ตอน 9 โมงพอดี ซึ่งตึก กุมารเวช ก็อยู่ตรงข้ามกับตึกผู้ป่วยนอก หาไม่ยากค่ะ เค้าแยกเด็กออกมาจากผู้ใหญ่เลย เป็นสัดส่วนดีมาก พอเข้าไป ก็เดินเข้าไปยื่นบัตร ที่ช่องบัตรเก่าเลยค่ะ ( ถ้ายังไม่มีบัตร ก็ต้องเข้าไปติดต่อที่ช่อง “บัตรใหม่” ) ในใจก็คิดว่า คนต้องเยอะมหาศาลแน่นอน แถมยังไม่ได้นัดล่วงหน้าอีก กว่าจะได้เจอหมอ น่าจะบ่ายๆ แน่ๆ ก็เลยเตรียมอุปกรณ์สำหรับ Entertainment มาเต็มที่ แต่ปรากฏว่า ไวมากๆ ค่ะ แม้ว่าคนจะเยอะก็ตาม แต่ทางพยาบาล มีการเรียกเข้าไปคัดกรอง เพื่อแยกเด็กที่ป่วยในแต่ละโรค ให้ไปในจุดที่ต่างๆ กัน จัดลำดับความสำคัญ รวมทั้งยังมี นักศึกษาแพทย์ ปี 5 มาช่วยตรวจอีก จึงทำให้ กระบวนการรอคิว เดินหน้าไปไวมากค่ะ หลังจากคัดกรองเรียบร้อย น้องเนปจูน ก็ได้เข้าพบคุณหมอ ไวมากๆ อ้อ.. เป็น ว่าที่คุณหมอค่ะ เป็น นศ.แพทย์ ปี 5 แต่มีอาจารย์หมอ นั่งอยู่ด้วย คือ อาจารย์หมอ 1 คน ในห้อง ต่อ นศ.แพทย์ 3 คน เท่ากับว่า สามารถตรวจคนไข้ได้ถึง 3 case ต่อครั้ง ซึ่งเร็ว และดีมากๆ ค่ะ นศ.แพทย์ ไม่ใช่ธรรมดาๆ นะคะ เก่งค่ะ วิเคราะห์แม่นยำทีเดียว อาจารย์หมอ ก็มาตรวจซ้ำ จากการตรวจ และการวิเคราะห์ สรุปก็คือ น้องเนปจูน เป็น โรคมือเท้าปาก ค่ะ คาดว่า น่าจะได้รับเชื้อ มือเท้าปาก มาจากที่ เนอสเซอรี่ อย่างแน่นอน

คุณแม่ต้องรู้  ลูกตื่นร้องไห้ กลางดึก เพราะอะไร และต้องทำยังไง

มือเท้าปาก โรคร้ายสำหรับเด็กเล็ก

ทั้งหมดนี้ ใช้เวลาเพียงแค่ 40 นาทีเท่านั้น เร็วอย่างไม่น่าเชื่อใช่มั้ยคะ แอดมินเองก็ไม่อยากเชื่อค่ะ คิดว่าจะเป็นเหมือนกรณีของผู้ใหญ่ ที่มาหาหมอที่ศิริราช แล้วต้องเจอคิวยาวเหยียด ยิ่งถ้าไม่ได้นัดด้วยนะ ยิ่งต้องรอนานมากๆ อันนี้ที่รู้ เพราะคุณแม่ มีนัดมาตรวจเป็นประจำค่ะ คิวยาวมากๆ ไม่ได้เกิดจากระบบไม่ดีนะคะ แต่คนไข้เค้าเยอะค่ะ ก็เลยทำให้ช้าไปบ้าง ไม่นึกเลยว่า แผนกกุมารเวช จะแตกต่างขนาดนี้ นับว่าคิดถูกมากๆ ค่ะ ที่ พาลูกไปหาหมอ ที่ศิริราช แต่ก็สายเกินไป 2 ปีซะแล้ว ถ้ารู้แบบนี้ พามาตั้งแต่ยังแบเบาะแล้ว

จุดเด่นจริงๆ ที่แอดมินเห็นในแผนกกุมารเวช ที่ศิริราช ก็คือ การคัดแยก หรือ การคัดกรองเด็กที่ป่วย อันนี้ ดีมากๆ ค่ะ ทำให้เร็วขึ้นแบบเห็นๆ รวมทั้ง สถานที่ ที่ใหญ่พอสมควร ( แต่ไม่ได้ใหญ่อะไรมากมาย ถ้าคนเยอะมากๆ ก็อาจจะอึดอัดได้เหมือนกัน ) แอร์ก็เย็นสบายๆ อากาศถ่ายเทได้ดีทีเดียว ดูๆ ไป ก็ไม่ได้แย่นะคะ มีคุณแม่หลายคน อุ้มทารก มาฉีดวัคซีนกันเต็มเลย สงสัยคราวหน้า ต้องพาลูกคนต่อไป มาฉีดวัคซีนที่นี่ แทนที่จะไป รพ.เอกชน บ้างแล้ว น่าจะดีกว่า เพราะถึงแม้ว่า ที่นี่ จะสามารถฉีดวัคซีนฟรีได้ แต่แบบเสียเงิน เค้าก็มีนะคะ แบบตัวยาที่ดีๆ เป็นของเมืองนอก ฉีดแล้วไม่บวม ไม่เป็นไข้ อะไรแบบนี้ ก็มีเช่นกันค่ะ ราคาก็ถูกกว่าเอกชนนิดหน่อย คุณแม่ สามารถเลือกได้ค่ะ ว่าอยากได้วัคซีนคุณภาพแบบไหน คิดว่าลูกคนต่อไป ต้องมาฉีดวัคซีนที่นี่แน่ๆ ค่ะ

คุณแม่ต้องรู้  วิธีแปรงฟันให้ลูก ตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 3 ขวบ ต้องทำอย่างไร?

ที่เอามาเล่าก็คือ ตัวอย่างความไม่รู้ และความเข้าใจผิด ของตัวแอดมินเอง ที่คิดว่า รพ.รัฐ ทุกที่ จะต้องแย่ ร้อน สกปรก คนเยอะ คิวนาน ไปซะหมดทุกที่ ซึ่งเอาเข้าจริงๆ แล้ว มันก็ไม่ได้เป็นกัน ทุก รพ. หรอกค่ะ ใช่ว่า รพ.เอกชน คนจะไม่เยอะ แผนกเด็ก วันเสาร์ อาทิตย์ คนก็เยอะมากเช่นกัน ดังนั้น มันอยู่ที่ ความพึงพอใจ ของคุณพ่อ และคุณแม่ เกี่ยวกับ สถานที่ และการบริการ ของ เจ้าหน้าที่ ใน รพ. แต่ละแห่งมากกว่า ส่วนใหญ่ ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ก็มักจะไปที่ รพ.เอกชน แต่สำหรับแอดมิน รู้สึกเชื่อมั่น ในฝีมือของอาจารย์แพทย์ ที่ศิริราช พยาบาล มากกว่าค่ะ ยิ่งเห็นสถานที่ และความรวดเร็ว ในการบริการแบบนี้แล้ว รวมทั้งอัธยาศัย ของพยาบาล ที่ยิ้มแย้มแจ่มใส รวมทั้งความรู้ที่คุณหมอ แนะนำมา ทำให้รู้สึกดีกับที่นี่มากๆ ค่ะ จึงอยากจะมาบอก คุณแม่ ทุกท่านว่า แผนกกุมารเวช ที่ศิริราช โอเคค่ะ คอนเฟิร์ม ไปมาแล้ว คนอาจจะเยอะไปนิด แต่อากาศไม่ได้ร้อน แอร์เย็น และรวดเร็วดีค่ะ พอๆ กับเอกชน หรืออาจจะดีกว่า เอกชน บางที่ ด้วยซ้ำไปค่ะ นี่ขนาดเข้าไปหา โดยไม่ได้นัด ยังเร็วขนาดนี้ ถ้านัดแล้ว จะเร็วกว่านี้ขนาดไหน บอกเลยว่า ชอบค่ะ