ลูกปอดบวม ต้องนอนโรงพยาบาลไหม กังวลมาก หมอบอกควรให้นอน รพ.

4626
แบ่งปัน

ลูกปอดบวม ฟังดูแล้ว ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลยนะคะ แม้แต่ผู้ใหญ่เราเอง ถ้าปอดบวม ก็ถือเป็นเรื่องใหญ่เช่นเดียวกัน ยิ่งพอพาไปหาคุณหมอแล้ว คุณหมอแนะนำว่า น้องควรจะนอนโรงพยาบาล เพื่อสังเกตอาการ ดีกว่ามั้ย? ทำให้แม่อย่างเรา ถึงกับต้องคิดหนักเลยทีเดียว เรื่องค่ารักษาพยาบาล ก็เข้าใจว่า ถ้าป่วยจริงๆ ก็ต้องจ่ายได้ แต่เรื่องของการนอนนี่สิ ลูกเรานอนที่นี่ แล้วได้อะไร จะได้รับการดูแลอย่างดี จริงหรือ? พยาบาลต่างหาก ที่เป็นคนดูแล หมอก็เป็นหมอเวร ที่จะมาตรวจดูอาการตามเวลา พยาบาลก็เข้ามาเช็ดตัวทีนึง ก็มือหนักเหลือเกิน? แล้วลูกเราจะนอนหลับไหม? เพราะมันแปลกที่ คิดอะไรมากมายไปเยอะแยะ สรุปก็คือ ลองปรึกษา คุณสามีก่อนดีกว่า คุณสามีก็เลยบอกว่า ดูจากอาการของลูกเราแล้ว คิดว่า น่าจะไม่เป็นไรนะ กินยาฆ่าเชื้อ แล้วพักผ่อนเยอะๆ ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร เพราะเมื่อก่อน ตอนที่เล็กกว่านี้ น้องเนปจูน ก็เป็นปอดบวมเหมือนกัน ตอนนั้นกังวลกว่านี้อีก เพราะน้องเค้ายังเล็กมากอยู่เลย มาตอนนี้ 2 ขวบกว่าแล้ว น่าจะไม่เป็นไรนะ รอดูอาการอีกวันดีกว่า

คุณแม่ต้องรู้  วิธีป้องกันไม่ให้ ลูกติดนมเต้า จนกลายเป็นปัญหา

ลูกปอดบวม ต้องนอนโรงพยาบาลไหม

ลูกปอดบวม จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลไหม?

ถ้าว่ากันตามข้อเท็จจริงแล้ว ไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลเลยค่ะ มันอยู่ที่อาการว่า เด็กมีอาการอย่างไร อ่อนเพลียหรือเปล่า เด็กที่มีอาการหนักๆ คือกินอาหารไม่ได้ อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ก็จำเป็นต้อง นอนโรงพยาบาล เพื่อให้น้ำเกลือ และดูแลอย่างใกล้ชิด โรคปอดบวม นั้น เป็นโรคในระบบทางเดินหายใจ ต้องอยู่ในที่ที่ อากาศถ่ายเทสะดวก ถึงจะดีที่สุด แล้วจะมีที่ไหน ที่จะดีกว่าที่บ้าน จริงมั้ยคะ

โรคที่จำเป็นต้องนอน รพ. จริงๆ ก็คือ โรคไข้เลือดออก ค่ะ โรคนี้ ยังไงก็ต้องนอน หนีไม่ออกค่ะ ยกเว้นว่า อาการไม่รุนแรง คือ ได้รับเชื้อตัวที่ไม่แรงเท่าไหร่

อาการของเด็ก ที่เป็นโรคปอดบวม เป็นยังไง?

สำหรับอาการ ของเด็กที่ป่วยเป็นโรคปอดบวมนั้น สังเกตได้ไม่ยากค่ะ อย่างน้องเนปจูน จะเริ่มจาก น้ำมูกไหล ต่อมาก็เริ่มไอ มีเสมหะ แล้วก็เป็นความผิดของ แม่ และพ่อเอง ที่ลืมคิดไปว่า ต้องให้น้องกินยาฆ่าเชื้อด้วย คือ พ่อ กับ แม่ รักษาตามอาการค่ะ น้ำมูกไหล ก็ให้กินยาลดน้ำมูก ไอก็ให้กินยาแก้ไอ คืออาการก็เป็นหวัดทั่วๆ ไปนั่นแหละค่ะ ต่อมา ไวรัส ที่อยู่ในหลอดลม มันคงจะเก่งกล้าขึ้น ก็เลยทำให้น้องเนปจูน มีไข้สูงตลอดเวลา อันนี้ถือว่า เป็นอาการหลัก ของโรคปอดบวมเลยนะคะ จำกันไว้ให้ดี ถ้าไข้ขึ้นสูง กินยาแก้ไข้แล้วก็ไม่ลดลง แสดงว่า ไม่ใช่ไข้หวัดธรรมดาแล้วค่ะ ต้องเป็นปอดบวมแน่นอน ยิ่งไอแบบมีเสมหะด้วยแล้ว ยิ่งใช่ใหญ่เลย

คุณแม่ต้องรู้  10 สิ่งที่ คุณแม่ ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับ ทารกแรกเกิด เลย

สำหรับการรักษาโรคปอดบวมนั้น ก็ไม่ยากค่ะ ร่างกายของเรา จะฟื้นตัวเอง แต่ตอนที่จะกำจัดเชื้อไวรัสนั้น ต้องพึ่งพา ยาฆ่าเชื้อ ค่ะ ถึงจะเอาอยู่ ไม่อย่างนั้น ร่างกายเราก็จะฟื้นตัวได้ช้า ให้น้องกินยาแก้อักเสบ ตามเวลา เช้า และเย็น พักผ่อนเยอะๆ ร่างกายก็จะฟื้นตัวขึ้นมาได้เองค่ะ

สาเหตุที่ทำให้น้อง เค้าติดเชื้อไวรัสตัวนี้มา ก็คงจะได้รับมาจากที่ เนอสเซอรี่ แน่นอนค่ะ เพราะหยุดอยู่บ้านมาเป็นเดือน ไม่ป่วยเลยสักนิด ไปโรงเรียนได้ 3 วัน น้ำมูกไหลเลย ซึ่งอาการน้ำมูกไหลนี่แหละค่ะ คืออาการแรกเริ่ม ทีแสดงว่า ร่างกายน้อง ได้รับไวรัสมาแล้ว

ก็เตือนกันเอาไว้เลยนะคะ ถ้าน้องเค้ามีอาการน้ำมูกไหลเมื่อไหร่ ต้องให้กินยาลดน้ำมูก และยาฆ่าเชื้อ หรือยาแก้อักเสบ ร่วมด้วยเสมอนะคะ อย่ากินแต่ยาลดน้ำมูกอย่างเดียว ดิฉันผิดพลาดมาแล้ว ก็อยากเอามาแนะนำกัน ให้เป็นบทเรียนค่ะ จะได้ไม่พลาดเหมือนกันอีก ตอนนี้น้องเนปจูน ก็อาการดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ

อ้อ.. ลืมบอกไป เจลแปะหน้าผาก ลดตัวร้อน ก็เป็นสิ่งสำคัญ ที่ต้องมีติดบ้านเอาไว้นะคะ ขาดไม่ได้เลยทีเดียว ตอนติด เด็กอาจจะร้องไห้หน่อย ก็อย่าไปสนค่ะ ดีกว่าเช็ดตัว เพราะการเช็ดตัวบ่อยๆ เด็กจะเจ็บที่ผิวค่ะ สำหรับรายละเอียด เรื่องการใช้เจลแปะแก้ไข้ ตัวร้อนนั้น สามารถอ่านได้ใน เจลแปะลดไข้ ตัวร้อน ของจำเป็นที่ คุณแม่ ต้องมีติดบ้านเอาไว้เลย

คุณแม่ต้องรู้  โรคท้องร่วงในเด็กเล็ก หรือ ไข้หวัดใหญ่ลงกระเพราะ อันตรายที่พ่อแม่ต้องรีบทำความเข้าใจ