หลังจากในบทความที่แล้ว ก่อนจะ ตั้งครรภ์ ต้องทำอะไรบ้าง ตอนที่ 1 ได้มีการกล่าวถึง สิ่งที่จำเป็นต้องทำ 4 ข้อแรก ไปแล้ว ในบทความนี้ เรามาดูกันต่อ ว่ามีเรื่องอะไร ที่คุณแม่ ต้องเตรียมตัว ก่อนจะวางแผน ตั้งครรภ์ บ้าง เริ่มกันเลย ด้วย ข้อที่ 5
5. อาหาร เรื่องใหญ่มากกว่าที่คุณคิดนะคะ
ในช่วงของการเตรียมตัว ย้ำว่า “เตรียมตัว” นะคะ ไม่ใช่ช่วงที่ ตั้งครรภ์ แล้ว ควรระวังอาหารที่คุณรับประทาน ไม่ให้มีปริมาณของไขมัน หรือน้ำตาล มากจนเกินไป ควรจะหาความรู้ ว่า น้ำหนักที่เหมาะสมกับคูณ ซึ่งจะสัมพันธ์กับส่วนสูง ควรมีปริมาณเท่าไหร่ (หรือที่เรียกว่า Body Mass indes : BMI) ถ้าไม่มั่นใจ จะไปปรึกษาแพทย์ก็ได้ค่ะ เพราะก่อนจะตั้งครรภ์ ที่โรงพยาบาล ก็มีแผนกวางแผนครอบครัวอยู่แล้วค่ะ พอรู้แล้ว ว่าควรจะมีน้ำหนักเท่าไหร่ ก็ต้องรักษาระดับน้ำหนักเอาไว้ให้คงที่ เพื่อจะได้ง่าย ในการติดตามการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ สิ่งที่เป็นข้อห้าม ที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ อย่าลดน้ำหนัก ระหว่างตั้งครรภ์ เพราะคุณและทารก ต่างต้องการสารอาหารในการดำรงชีวิต และการเจริญเติบโตมาก ถ้าจะลดน้ำหนัก ก็ให้ลดในช่วงเตรียมตัว ก่อนที่จะตั้งครรภ์ ลดให้เรียบร้อย แล้วคุมน้ำหนักให้ได้ตามปกติก่อน แล้วถึงเริ่มปล่อยให้ท้องนะคะ
อีกเรื่องที่สำคัญมากๆ ที่สุดก็คือ หญิงที่ตั้งครรภ์ ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ แต่มักจะถูกละเลย โดยคุณแม่ที่ชอบสังสรรค์ มักจะอ้างว่า จิบนิดหน่อย พอเป็นกระสัย ไม่น่าจะเป็นอะไร แต่ในความเป็นจริงแล้ว แม้จะดื่มเพียงปริมาณน้อย ที่อยู่ในระดับปลอดภัยก็ตาม ก็สามารถส่งผลให้ทารกที่อยู่ในครรภ์ มีโอกาสเกิดมาผิดปกติ คลอดก่อนกำหนด น้ำหนักน้อยได้ ยิ่งถ้าแม่คนไหน เป็นนักดื่มขนาดหนัก ลูกที่เกิดมา ยิ่งมีโอกาสผิดปกติได้สูงมากขึ้นตามไปด้วย อาการที่แสดงให้เห็นได้ชัดๆ เลยก็คือ จะเป็นเด็กที่มีแก้มตอบ ศรีษะเล็ก ตาเล็ก และมีจมูกสั้น ผิดปกติ โดยครึ่งหนึ่งของทารกเหล่านี้ จะมีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ และมีพัฒนาการทางสติปัญญาช้า คุณแม่ทุกคน จึงควรหลีกเลี่ยงการดื่ม และอาหาร ที่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์อยู่ในอาหาร รวมทั้งงดการสูบบุหรี่ หรือสูดดมควันบุหรี่อีกด้วย เพราะสารในบุหรี่ จะขัดขวางการเจริญเติบโตของทารก และขัดขวางการลำเลียงอ็อกซิเจนไปสู่ทารก ทำให้ทารกมีน้ำหนักน้อย และคลอดลำบาก
6. อารมณ์ของคุณแม่ เรื่องใหญ่ใกล้ตัว
การตั้งครรภ์ ย่อมทำให้การดำเนินชีวิตของ คุณแม่ เปลี่ยนไปอย่างแน่นอน นอกจากจะมีความสุข และตื่นเต้น ที่กำลังจะมีลูกแล้ว ก็ยังมีเรื่องราวต่างๆ มากมาย ให้กังวล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรูปร่าง ที่เปลี่ยนไป, กังวลเรื่องความไม่รู้เกี่ยวกับ การตั้งครรภ์ และยังมีอิทธิพลจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนไป มาช่วยกระตุ้นความรู้สึกของ คุณแม่ อีกด้วย ดังนั้นการเตรียมตัวให้พร้อมในช่วง 1 – 3 เดือน นั้น จะเป็นช่วงเวลาที่คุณจะทำการปรับสภาพจิตใจ ให้พร้อมก่อนที่จะเริ่มตั้งครรภ์
7. การเงิน
การที่จะมีลูก ย่อมทำให้ค่าใช้จ่าย ภายในครอบครัวของคุณ เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน คุณต้องมีการวางแผน มีเงินเก็บพอสมควร ก่อนที่จะเริ่ม มีลูก เพราะในระหว่างตั้งครรภ์ ก็ต้องเริ่มมีการใช้เงินแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ค่าใช้จ่าย ในการไปหาหมอที่ฝากครรภ์ ในแต่ละครั้ง หรือ ค่าเครื่องใช้สำหรับเด็กอ่อน หรือค่าจ้างพี่เลี้ยง และอื่นๆ อีกมากมาย อันนี้เป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เด็ดขาด คำนวนให้ดีนะคะ
8. การลาคลอด
ในปัจจุบัน กฏหมายอนุญาตให้ คุณแม่ สามารถลาคลอดได้ 3 เดือนเต็มๆ ไม่ว่าจะอาชีพไหนก็ตาม ต้องเป็นไปตามนี้ทั้งหมด ดังนั้นคุณควรจะกำหนดระยะเวลาที่จะลาคลอดเอาไว้ให้ดี ว่าจะลาช่วงไหน แต่ที่ดิฉันเคยทำ จะลาในสัปดาห์ที่ 37 ค่ะ คือลาก่อนคลอด 1 สัปดาห์ จะได้ไม่เสียเวลามากเกินไปค่ะ
9. จดบันทึกประจำวัน เพื่อเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ของแพทย์
เรื่องนี้มีคุณแม่ จำนวนไม่น้อย มองข้ามไปมาก เพราะอาจจะไม่มีเวลา หรือมองว่าไม่สำคัญ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่คุณรู้สึก หรือสัมผัส ที่เกิดขึ้นกับตัวคุณ จะเป็นข้อมูลสำคัญ สำหรับแพทย์ในการวิเคราะห์หาสาเหตุ ว่ามีอะไรผิดปกติ เกิดขึ้นกับ ทารกในครรรภ์ ของคุณหรือไม่ ดิฉันแนะนำว่า ให้คุณเริ่มจดตั้งแต่วันที่เริ่มตั้งครรภ์เลยนะคะ
แค่ 9 ข้อนี้ คงไม่มากเกินไป สำหรับ ว่าที่คุณแม่ ที่กำลังวางแผนจะมีลูก รายละเอียดมันอาจจะเยอะหน่อย แต่รู้เอาไว้ตั้งแต่ก่อน ตั้งครรภ์ เพื่อเตรียมตัว ย่อมดีกว่า ไปหาข้อมูล ศึกษาเอาตอนที่ตั้งครรภ์แล้วนะคะ เพื่อความปลอดภัย และสมบูรณ์ของลูกน้อย ของเราค่ะ
