โรคไข้หวัดใหญ่ ในเด็ก และวัคซีนป้องกัน สำคัญแค่ไหน

8620
แบ่งปัน

โรคไข้หวัดใหญ่ ถือเป็นโรคที่มีความร้ายแรงมาก บางคนมองว่า ก็คงจะเหมือนกับ ไข้หวัด ธรรมดาๆ ทั่วไป แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันมีความร้ายกาจ ซ่อนอยู่มากกว่าเยอะ ยิ่งกับในเด็กด้วยแล้ว อันตรายต่อการเสียชีวิตมากๆ เหตุผลก็เพราะว่า สาเหตุของการเป็น ไข้หวัดใหญ่ นั้น มาจาก เชื้อไวรัส ซึ่งแน่นอนว่า ไม่มียารักษา ไม่มียาฆ่าไวรัส ทำให้การรักษา เป็นเพียงการรักษาตามอาการเท่านั้น เหมือนกับ ไข้เลือดออก และ โรคมือเท้าปาก ยิ่งถ้าเกิดในเด็กแรกเกิด ซึ่งยังไม่มีภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย หรืออาจจะมีอยู่น้อยมากๆ ยิ่งทำให้มีโอกาสเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว นับว่า เป็นหนึ่งในโรคที่อันตราย สำหรับทารกแรกเกิดมากๆ คุณพ่อ คุณแม่ จึงต้องให้ความระมัดระวัง ในการป้องกัน การติดเชื้อเป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่จึงแนะนำว่า ถ้าเด็กยังอายุไม่ถึง 3 เดือน ไม่ควรพาออกนอกบ้าน และที่สำคัญ ไม่ควรให้พบกับญาติ หรือกับใครที่ไม่แน่ใจว่า สุขภาพแข็งแรงหรือไม่ เพราะอาจจะนำเชื้อ มาติดลูกของเราได้ ถ้าเป็นขึ้นมาล่ะก็ ไม่สนุกเลยทีเดียวค่ะ อย่างน้อยเนปจูน ก็เป็นเหมือนกัน อันตราย และเป็นห่วงมากๆ เพราะอาการของ ไข้หวัดใหญ่ นั้น ส่วนใหญ่ จะเข้าไปโจมตี ที่ระบบทางเดินหายใจ เป็นหลัก ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบ จนทำให้เสียชีวิตได้ ตอนนั้น ก็นับว่า ดูแลกัน ไม่ได้หลับได้นอนเลยทีเดียว กลัวว่า ลูก จะหยุดหายใจไป แต่สุดท้าย ก็หายเป็นปกติ คงเป็นเพราะ นมแม่ ด้วยล่ะมั้ง ก็เลยทำให้มีภูมิคุ้มกันอยู่บ้าง

โรคไข้หวัดใหญ่ ในเด็ก และวัคซีนป้องกัน

โรคไข้หวัดใหญ่ มันเป็นยังไงกันนะ?

โรคนี้ เป็นโรคที่เกิดจากการที่ร่างกาย ติดเชื้อไวรัส Influenza ซึ่งมีอยู่ 3 ชนิด นั่นคือ A, B และ C ซึ่งชนิดที่ระบาด และเป็นกันบ่อยๆ ก็คือ A กับ B ซึ่งก็ระบุไม่ได้ว่า ในแต่ละปี สายพันธุ์ไหน จะระบาดมากกว่ากัน ทางกระทรวงสาธารณสุข จึงจำเป็นต้องประกาศให้มีการฉีดวัคซีน กันทุกปี เพื่อป้องกันเอาไว้ก่อน สาเหตุที่ทำให้โรคนี้ ระบาด และแพร่กระจายกันได้เร็วมาก ก็เนื่องจาก มันใช้การติดต่อกันทาง การหายใจ ทำให้ติดต่อกันได้อย่างรวดเร็วมากๆ เช่น ถ้ามีคนที่ได้รับเชื้อ แต่ยังไม่ถึงกับป่วย มาหอมแก้มลูกเรา แค่นี้ ก็แพร่เชื้อให้ลูกเราได้แล้ว หรือถ้าเราเป็น แล้วหายใจออกมา ลูกหายใจเข้าไป ก็ติดเชื้อได้เช่นกัน มันติดเชื้อกันได้ง่ายแบบที่สุด ซึ่งพอติดเชื้อมา ก็จะทำให้มีอาการไอ จาม คล้ายๆ กับหวัดทั่วไป ซึ่งสำหรับคนที่ภูมิต้านทานดี อาจจะเป็นแค่ 1 – 2 วัน ไม่มีอาการอะไรมาแทรกซ้อน ก็หายเป็นปกติ แต่สำหรับคนที่ร่างกายไม่แข็งแรง ก็จะมีอาการ ไอ เจ็บคอ มีไข้สูง ปวดหัว น้ำมูกไหล กินยายังไงน้ำมูกก้ไม่หยุดไหล อ่อนเพลีย และปวดเมื่อย ซึ่งจะเป็นหนักๆ แบบนี้ อย่างน้อยๆ 1 – 3 วัน ถ้าไม่ดีขึ้น อาจต้องไปหาหมอ และนอนโรงพยาบาล เพราะเชื้อไวรัสกลุ่มนี้ มีหลายสายพันธุ์ย่อยมากๆ ทำให้บางคน เกิดอาการภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบ หรือ หลอดลมอักเสบได้ ซึ่งมันจะลามไปเป็น ปอดบวม ถ้าไม่รีบรักษา อาจอันตรายได้ถึงชีวิต ที่อธิบายมาทั้งหมดนี้ คืออาการสำหรับผู้ใหญ่นะคะ แล้วคิดดูว่า ถ้าเป็นเด็กทารก จะสาหัสขนาดไหน มันจะรุนแรงกว่านี้หลายเท่า เพราะถ้ามีเสมหะ ก็ไม่สามารถคายออกมาได้ ไม่เหมือนกับผู้ใหญ่เรา จำเป็นต้องใช้เครื่องดูดเสมหะ ซึ่งก็เป็นท่อยางเล็กๆ สอดเข้าไปดูดในลำคอ ทรมานแบบสุดๆ ค่ะ ใครมีลูก อย่าให้ลูกป่วยเป็นแบบนี้นะคะ ทรมานมากๆ

คุณแม่ต้องรู้  ลูกร้องไห้ หมายถึงอะไร

โรคไข้หวัดใหญ่ ระบาดช่วงไหนมากที่สุด?

“รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” ถ้าเรารู้ว่า มันระบาดช่วงไหน เราก็ไปฉีดวัคซีนป้องกันก่อนซะ ก็สิ้นเรื่อง จริงมั้ยคะ ในประเทศไทย จะพบการระบาดของ โรคไข้หวัดใหญ่ อยู่ 2 ระลอก ด้วยกัน นั่นคือ ช่วงเดือน ม.ค. – มี.ค. และในช่วง ปลายฝนต้นหนาว คือ เดือน ก.ค. – ต.ค. ซึ่งก็คือช่วงนี้นี่แหละค่ะ ใครที่มีภูมิคุ้มกันไม่ค่อยดี ไม่ค่อยแข็งแรง ออกกำลังกายน้อย ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเลย นอนดึก ทำงานหนัก รีบไปฉีดวัคซีนเลยค่ะ ส่วนทารกแรกเกิด จะยังฉีดไม่ได้นะคะ ต้องรออายุ 6 เดือนขึ้นไปก่อน ถึงจะโอเคค่ะ ซึ่งในเด็ก จะแบ่งการฉีดออกเป็น 2 เข็ม โดยแต่ละเข็ม ห่างกัน 4 สัปดาห์ นะคะ น้องเนปจูน ไปจัดมาเรียบร้อยแล้วค่ะ

คุณแม่ต้องรู้  ลูกตื่นร้องไห้ กลางดึก เพราะอะไร และต้องทำยังไง

วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ มีกี่ชนิด อะไรบ้าง?

ถ้าพูดถึงเรื่องของ วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ แล้วล่ะก็ ก่อนอื่น เราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่า ว่า วัคซีน มันคืออะไร วัคซีน มันก็คือ เชื้อโรคดีๆ นี่เองค่ะ ที่ถูกทำให้กระจอกงอกง่อย ทำร้ายเราไม่ได้แล้ว จึงเอามาฉีดใส่ในร่างกายของเรา เพื่อให้ภูมิต้านทาน หรือทหารภายในร่างกายของเรา ( เม็ดเลือดขาว ) ได้รู้จักว่า อ้อ เชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์นี้ มันมีหน้าตาแบบนี้ แล้วเก่งแบบนี้นะ โอเค จะได้เตรียมอาวุธเอาไว้ให้พร้อม ถ้าเจอว่ามีหลุดเข้ามาอีก จะได้สู้ได้นั่นเอง ดังนั้น จึงมีบางคน ที่เมื่อได้รับวัคซีนเข้าไปแล้ว จะมีอาการป่วยบ้าง เช่น ไข้ต่ำ และปวดเนื้อปวดตัว อะไรประมาณนี้ พูดง่ายๆ ก็คือ วัคซีน เป็นการฉีดเชื้อโรค เข้าไปในร่างกายของเรา เพื่อร่างกายของเรา คุ้นเคย และสร้างภูมิต้านทานเอาไว้ได้

สำหรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ นั้น จะแบ่งออกเป็น

  • วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ชนิด 3 สายพันธุ์ ประกอบด้วย ไวรัสไข้หวัดใหญ่ A 2 สายพันธุ์ และ ไวรัสไข้หวัดใหญ่ B 1 สายพันธุ์ อันนี้ เป็นวัคซีนพื้นฐาน ที่มีใช้ภายในประเทศ มานานกว่า 50 ปีแล้วค่ะ
  • วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ชนิด 4 สายพันธุ์ ประกอบด้วย ไวรัสไข้หวัดใหญ่ A 2 สายพันธุ์ และ ไวรัสไข้หวัดใหญ่ B 2 สายพันธุ์
คุณแม่ต้องรู้  จะพา ลูก ไป ฉีดวัคซีนเด็ก ที่ไหนดี

สรุปง่ายๆ ก็คือ จำช่วงเวลาที่ โรคไข้หวัดใหญ่ ระบาด เอาไว้ให้ดี แล้วก็พากันไปทั้งครอบครัว ทั้ง พ่อ แม่ ลูก ปู่ ย่า ตา ยาย ไปฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ กันให้หมด ตาม รพ.รัฐบาล จะมีบริการฉีดวัคซีนให้ฟรี สำหรับคนที่มีภูมิต้านทานน้อย หรือคนสูงอายุ และเด็กอ่อน แต่สำหรับพ่อ แม่ อาจจะยอมเสียเงินนิดหน่อย เข็มละไม่กี่บาท เพื่อความปลอดภัย ของลูกน้อยนะคะ เพราะถ้าเราเป็น ลูกก็ไม่รอดค่ะ ต้องติดเราไปอย่างแน่นอน หรือถ้า ปู่ ย่า ตา ยาย เป็น ก็ต้องเอามาติดหลานแน่ๆ หรือ หลาน อาจจะเอาเชื้อไปติดให้ ปู่ ย่า ตา ยาย ก็ได้ ดังนั้น ฉีดมันซะทุกคนนั่นแหละค่ะ ดีที่สุด และปลอดภัยที่สุด รู้แบบนี้แล้ว ก็อย่ารอช้านะคะ รีบไปโรงพยาบาล เพื่อไปรับการฉีดวัคซีนได้เลยค่ะ