ลูกนอนกรน ปกติหรืออันตราย !??

4236
แบ่งปัน

ลูกนอนกรน อาจไม่ใช่เรื่องแปลก เสียงฟรี้ๆ ของ ลูกน้อย ขณะที่กำลังหลับ คุณแม่ บางคน อาจจะมองว่า เป็นเรื่องน่ารักน่าชัง หรือมองว่า เป็นอาการที่แสดงว่า ลูกหลับสนิทแล้ว คุณแม่บางคน เห็น ลูกนอนกรน ก็คิดว่า ลูกกำลังหลับสบาย ไม่คิดจะทำอะไร ปล่อยให้ลูกนอนกรนอยู่แบบนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะการที่เด็กนอนอ้าปาก แล้วส่งเสียงกรนออกมา เป็นสัญญาณที่บอกให้เรารู้ว่า เค้ากำลังหายใจไม่สะดวก ควรจะต้องรีบจับลูกเปลี่ยนท่าโดยเร็ว ไม่ต้องกลัวว่าจะทำให้เค้าตื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อไหร่ก็ตาม หากเห็นว่า ลูกเริ่มกรนเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ คุณแม่ ควรจะต้องเริ่มกังวลได้แล้วนะคะ เพราะการนอนกรน จะผู้ใหญ่ หรือเด็ก ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีทั้งนั้น เพราะการนอนกรน เป็นการแสดงออกถึง ระบบการหายใจที่ขัดข้อง ในขณะที่กำลังหลับ โดยเฉพาะ เด็ก การนอนกรน จะส่งผลโดยตรง ต่อพัฒนาการ ทั้งทางร่างกาย สมอง และสติปัญญาของ ลูก และหากมีอาการหยุดหายใจ ขณะหลับร่วมด้วยเข้าไปอีก อาจมีอันตรายถึงชีวิตได้เลยนะคะ

ลูกนอนกรน

ลูกนอนกรน เกิดจากอะไรกันแน่ ???

เด็กที่นอนกรน ส่วนใหญ่จะพบในช่วงที่ มีอายุ 1 ปีขึ้นไป โดยมีสาเหตุมาจาก การที่ต่อมน้ำเหลือง รวมถึงต่อมทอนซิล และต่อมอะดีนอยด์ โตขึ้น ส่งผลให้เกิดการอุดกั้น ของทางเดินหายใจ จนเกิดเสียงกรนขึ้นมา นอกจากนี้แล้ว การที่ลูกนอนกรน อาจมีสาเหตุมาจาก โรคภูมิแพ้ หรือโรคระบบทางเดินหายใจ มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน หรือครอบครัวมีประวัติเป็นโรคนอนกรน

คุณแม่ต้องรู้  วิธีการเลือกเพศลูก ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งแพทย์

เด็กที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน ส่งผลยังไงกับการนอนกรนเหรอคะ ?

เด็กที่อ้วนเกินไป จะมีไขมันรอบคอเยอะ เมื่อหลับ กล้ามเนื้อเกิดหย่อนตัว ไขมันไปกดทับทางเดินหายใจมาก ส่งผลให้ส่งผ่านลมได้น้อยลง จนส่งเสียงออกมาเป็นเสียงกรน ในขณะที่หลับ

ดิฉันกล้าบอกได้เลยว่า การที่ ลูกนอนกรน นั้น เป็นการนอนหลับที่ไม่มีคุณภาพ เป็นการหลับที่ไม่สนิท หลับไม่ลึก ซึ่งย่อมส่งผลทำให้ร่างกายของเด็ก พักผ่อนได้ไม่เต็มที่ ออกซิเจนเข้าไปไม่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ส่งผลต่อการเจริญเติบโต และพัฒนาการตามวัยอย่างแน่นอน เพราะจะมีผลต่อการหลั่ง Growth Hormone ซึ่งเป็นฮอร์โมน ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของเด็ก ที่จะหลั่งออกมาในตอนที่ ลูกหลับสนิท กลางดึกเท่านั้น

การนอนหลับที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งเกิดจากการนอนกรนนั้น จะทำให้ลูกตื่นขึ้นมาไม่สดชื่น ไม่กระปรี้กระเปร่า อ่อนเพลีย งัวเงีย และงอแง และอาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการ ในการเรียนรู้ ทำให้สมาธิสั้น ความจำไม่ดี ก้าวร้าว ซนกว่าปกติ ได้อีกด้วย ยังไม่หมดนะคะ การนอนกรน ยังทำให้ร่างกายของ ลูก ไม่โตเท่าที่ควร โดยเฉพาะความสูงของร่างกาย จะสูงช้า ความสามารถในการจดจำจะลดลง เรียนหนังสือไม่เก่ง ทั้งๆ ที่น่าจะเรียนได้ดีกว่านี้ หงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย เพราะหลับไม่พอ ทำให้เด็กมีสมาธิสั้น หรือซน ไม่สามารถจดจ่อกับกิจกรรม เช่น อ่านหนังสือได้เลย แต่ไม่รวมถึงการดูทีวี หือ เล่นเกม ซึ่งเด็กจะทำได้นานอยู่แล้ว

คุณแม่ต้องรู้  ปอดอักเสบ ในเด็ก ต้องระวังให้ดี ลูกเป็นได้ง่ายมากๆ นะ

หากลูกมีอาการกรน และมีการหยุดหายใจร่วมด้วยแล้ว ยิ่งต้องระวังให้มากกว่าเดิมเข้าไปอีกนะคะ เพราะการหยุดหายใจตอนหลับ จะมีผลทำให้ออกซิเจนในเลือดลดลง หัวใจจะทำงานหนัก เพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย หากคุณแม่ ปล่อยให้อาการนี้เกิดขึ้นนานๆ ลูกจะมีอาการหัวใจโต และอาจรุนแรงถึงขั้นเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว จนเสียชีวิตได้

เด็กนอนกรน ทำยังไง

การนอนกรนจะรบกวนการนอนของลูก ทำให้ลูกมีอาการต่างๆ เข้ามาเป็นอุปสรรคในการนอน ดังนี้

1. ปวดปัสสาวะบ่อยในตอนกลางคืน

2. ปัสสาวะรดที่นอน นอนหลับไม่สนิท นอนดิ้น ผวาตื่น หรือฝันร้ายได้ง่าย

การนอนกรน ยังทำให้ลูกอ้าปากเวลานอน เพราะต่อมอะดีนอยด์ดต ทำให้กระดูกเพดานปาก โก่งสูง มีผลที่อาจทำให้ฟันหน้า ยื่นผิดรูป หรือฟันเหยินได้ สาเหตุเพราะ การที่ ลูกนอนกรน จะหายใจเข้า ออก ผ่านทางปาก มากกว่าการหายใจเข้า ออก ผ่านช่องทางปกติคือ จมูก

การแก้ปัญหา ลูกนอนกรน

ขั้นแรกเลยนะคะ คุณแม่ ควรดูแลสภาพแวดล้อมในห้องนอนของลูกก่อน ว่าขัดขวางสุขลักษณะในการนอนที่ดีของ ลูก หรือไม่ เช่น อากาศไม่ถ่ายเท มีแสงสว่างส่องตาลูก อากาศร้อน หรือหนาวเกินไป มีอะไรมาปิดทับการหายใจ เช่น หมอน หรือผ้าห่ม ที่หน้าอก หรือจมูกของลูกหรือไม่

คุณแม่ต้องรู้  10 สิ่งที่ คุณแม่ ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับ ทารกแรกเกิด เลย

ขั้นต่อมา ก็คือ ก่อนนอน เช็คดูว่า ลูกน้อย มีน้ำมูกหรือไม่ เพราะในบางครั้ง เวลาที่ลูกป่วยเป็นหวัด น้ำมูกก็จะกลายมาเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการนอน และทำให้เกิดอาการนอนกรนได้ค่ะ หากเป็นสาเหตุนี้ คุณแม่ ควรดูดน้ำมูกออกจากจมูกลูกให้เรียบร้อยก่อนนอนนะคะ

แต่ถ้าตรวจทั้ง 2 ขั้นตอนที่ว่าไปแล้ว ลูกยังนอนกรนอยู่อีก ให้แก้ปัญหาเบื้องต้นคือ ให้จับลูกนอนตะแคง เปลี่ยนท่า ซึ่งจะทำให้อาการนอนกรนของลูกหายไปได้อย่างแน่นอน

ลูกนอนกรน อันตราย

ในการรักษาทางการแพทย์ คุณหมอจะตรวจร่างกาย เพื่อหาสาเหตุที่ เด็กนอนกรน เช่น ต่อมทอนซิล หรือ ต่อมอะดีนอยด์โตผิดปกติหรือไม่ หรือจมูกอักเสบจากโรคภูมิแพ้หรือไม่ จากนั้น คุณหมอ ก็จะทำการรักษาตามอาการค่ะ

ส่วนอาการหยุดหายใจ ขณะที่หลับนั้น คุณหมอจะทำการตรวจการนอนหลับ ( Sleep Test ) เพื่อดูว่า มีอาการหยุดหายใจขณะหลับหรือไม่

จากที่ดิฉันได้อธิบายไปมากมาย คงจะพอเห็นภาพแล้วใช่มั้ยคะ ว่าการที่ ลูกนอนกรน ซึ่งดูเหมือนเรื่องเล็กๆ นิดเดียว แต่ในความจริงแล้ว มันส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของเค้าเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่า ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย ดังนั้น หากลูกเริ่มนอนกรนแล้ว คุณแม่ ต้องไม่ควรมองข้ามนะคะ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ที่ส่งผลต่อพัฒนาการของลูกโดยตรงเลยนะคะ หากแก้ปัญหาขั้นต้นด้วยตัวเองไม่สำเร็จ ควรพาลูกไปปรึกษาคุณหมอ จะดีที่สุดค่ะ