พาลูกเที่ยวห้าง วิธีเสริมพัฒนาการ สร้างการเรียนรู้แบบง่ายๆ ไม่ต้องเสียเงิน

4506
แบ่งปัน

แอดมินเอง เป็นคนที่มักจะ พาลูกเที่ยวห้าง หรือซูปเปอร์มาร์เก็ต เช่น Big C, Lotus หรือ แมคโคร อยู่เสมอๆ เรียกว่า หลังจาก 8 เดือน ก็เริ่มพาลูกเที่ยวห้างแล้ว เพราะแอดมินเห็นว่า การที่ลูกได้ออกมาเปิดโลก เห็นสิ่งต่างๆ ที่แปลกใหม่ไปจากเดิม เห็นสีสัน เห็นของที่จับต้องได้ ย่อมดีกว่า การอุดอู้อยู่แต่ในห้อง และในบ้านอย่างแน่นอน อีกทั้งคุณพ่อ ของน้องเนปจูน ยังเห็นว่า การพาลูกมาเดินเที่ยวห้าง เป็นการช่วยส่งเสริมพัฒนาการ การเรียนรู้ ให้กับลูกได้จริงๆ เพราะตอนนี้ น้องเนปจูน รู้จัก ผัก ผลไม้หลายชนิดมาก และรู้ว่า อะไรที่ตัวเองชอบ แถมยังรู้อีกว่า ขนมที่ตัวเองชอบ วางขายอยู่ในชั้นตรงล็อคไหน

บางคนอาจจะมองว่า การพาลูกไปเที่ยวห้าง มันจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการได้อย่างไร พาไปสวนสาธารณะ ไม่ดีกว่าหรือยังไง อันที่จริงแล้ว มันก็ต้องพาลูกไปทั้งสองที่นั่นแหลค่ะ ทั้งพาลูกออกไป วิ่งเล่นสนามหญ้า และพาลูกมาเดินเที่ยวห้าง ( ที่มีคนน้อยๆ ) ถ้าเป็นไปได้ ให้ลูกได้ออกนอกบ้าน มาพบเจอกับผู้คนในสังคม เจอกับสิ่งใหม่ๆ ได้มีประสบการณ์ใหม่ๆ ย่อมต้องดีกับตัวของเค้าอย่างแน่นอน แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องระวังด้วยว่า จะต้องไม่มีอากาศร้อนเกินไป หรือหนาวเกินไป และไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อต่างๆ ที่อาจทำให้เค้าป่วยได้

คุณแม่ต้องรู้  พาลูกไปหาหมอ แผนกกุมารเวช ที่ศิริราช เป็นครั้งแรก เร็วอย่างเหลือเชื่อ

สำหรับห้างที่มี Playground หรือลานเด็กเล่น หรือที่มักจะเรียกกันว่า บ้านบอล นั้น ยังไม่เหมาะกับเด็กเล็กนะคะ สถานที่แบบนั้น เหมาะกับเด็กที่มีอายุ 6 ขวบขึ้นไปมากกว่าค่ะ เพราะร่างกายมีความแข็งแรงแล้ว และมีภูมิต้านทานที่แข็งแกร่ง พอจะทำให้ตัวเอง ไม่ติดเชื้อ มือ เท้า ปาก ได้ ( แต่ในบางราย ก็อาจจะเป็นได้เช่นกัน ) เด็กเล็กๆ ควรไปเดินห้างเล่นสบายๆ กับพ่อ แม่ มากกว่าค่ะ

พาลูกเที่ยวห้าง วิธีเสริมพัฒนาการ แบบได้ผลจริงๆ

ในช่วงวัย 1 ขวบกว่าๆ อาจจะยังไม่เห็นผลของการ พัฒนาการ ที่เพิ่มขึ้นสักเท่าไหร่ เพราะความสนใจของเด็กวัยนี้ ยังไม่ได้อยู่ที่ของที่ขายอยู่ตามชั้นในห้าง มากสักเท่าไหร่ แต่พอ 2 ขวบ จะเห็นพัฒนาการ ที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ลูกมีความสนใจ อยากรู้จักสิ่งของต่างๆ มากยิ่งขึ้น อยากช่วยหยิบของ อยากช่วยเข็นรถ อยากเลือกซื้อขนมที่ตัวเองชอบ

%e0%b8%9e%e0%b8%b2%e0%b8%a5%e0%b8%b9%e0%b8%81%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a7-%e0%b8%8a%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%9b%e0%b8%9b%e0%b8%b4%e0%b9%89%e0%b8%87

ร่างกายของลูก จะแข็งแรงขึ้นอย่างแน่นอน เพราะได้วิ่งไปมา ตลอดระยะเวลา ที่เดินช้อปปิ้ง และที่เห็นได้ชัดก็คือ สอนอะไรไป จะจำได้หมดเลย เพราะลูก มีความกระตือรือร้น สนใจสิ่งต่างๆ ที่วางอยู่บนชั้นขายของในห้างมากๆ ไม่จำเป็นว่า ต้องเป็นของกินเพียงอย่างเดียว ของทุกอย่าง เป็นเสมือนสิ่งใหม่ในชีวิตของเค้าทั้งหมด เค้าอยากรู้ อยากเห็น และจดจำทุกอย่างได้รวดเร็วมาก

คุณแม่ต้องรู้  ลูกไม่สบาย ติดเชื้อ RSV ไอ น้ำมูกไหล ทำไงดี

สิ่งที่วัดใจ คุณพ่อ คุณแม่ อย่างเราๆ มากที่สุดก็คือ เมื่อลูก เดินไปเจอกับ โซนของเล่น อันนี้ วัดใจกันมากจริงๆ เพราะถ้าลูกเจอของเล่นที่ชอบ จะไม่ซื้อให้ ก็คงไม่ได้ แต่นับว่าดี ที่ลูกยังไม่สนใจของเล่นสักเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะว่า ลูกอยู่กับพ่อ แม่ ตลอดเวลา เค้าเห็นพฤติกรรมของพ่อแม่ ว่ากินขนม หรือใช้ของใช้อะไร เค้าก็อยากที่จะใช้ของใช้แบบนั้นตาม หรือที่เรียกว่า “พฤติกรรมเลียนแบบ” ซึ่งนับเป็นสิ่งชี้ชัดสำคัญว่า ลูกมีพัฒนาการทางสมองที่ดีมากๆ เด็กที่ฉลาด จะเริ่มจากการเลียนแบบพฤติกรรมของพ่อแม่ก่อนเสมอ อันนี้จะสามารถสังเกตได้ง่ายๆ เลยค่ะ

พาลูกเที่ยวห้าง

แต่การ พาลูกเที่ยวห้าง ใช่ว่าจะมีแต่ข้อดีเสมอไป ข้อควรระวังนั้น ก็อันตรายไม่ใช่เล่นๆ แอดมินไม่ได้หมายถึง เรื่องของอุบัติเหตุ เช่น โดนคนอื่นเข็นรถเข็นมาชนลูกเรานะคะ แต่หมายถึง โรค มือ เท้า ปาก ต่างหากล่ะคะ เพราะการจับรถเข็น หรือจับสิ่งของ อาจจะทำให้ลูก ได้รับเชื้อไวรัสเข้าไปได้ง่าย อีกทั้ง ยังมีอายุน้อยเกินไป มีโอกาสที่จะติดเชื้อได้สูงมากทีเดียว ดังนั้น พ่อ แม่ ต้องดูแลลูกอย่างใกล้ชิด อย่าจับลูกใส่รถเข็นช้อปปิ้งสินค้า อย่าให้เค้านั่งเด็ดขาด เพราะเด็กคนอื่น เค้าก็ถูกจับนั่งแบบนั้นเช่นเดียวกัน และเด็กพวกนั้น อาจจะมีเชื้อ มือ เท้า ปาก อยู่แล้ว และจับรถเข็นคันนั้นเล่น พอลูกเราไปนั่ง แล้วจับเล่นบ้าง ก็จะติดเชื้อได้ทันที ทางที่ดีที่สุด ให้ลูกเดินเล่น หรือไม่ก็นั่งรถเข็นเด็กของตัวเอง ที่นำมาจากบ้าน จะดีที่สุดค่ะ

คุณแม่ต้องรู้  เทคนิคการเลี้ยงลูกให้ฉลาด ไม่เกี่ยวกับกรรมพันธุ์ ต้องเลี้ยงยังไงให้ลูกโตมาแล้วเก่ง